![The Synod of Whitby: การปะทะกันของประเพณีโรมันกับแบบอย่างเคลติกในยุคทองของอังกฤษ](https://www.jakubd.pl/images_pics/the-synod-of-whitby-roman-vs-celtic-traditions-in-golden-age-england.jpg)
ราวปี ค.ศ. 664 บนแผ่นดินอังกฤษที่กำลังถูกผสานรวมเป็นชาติ สภาการนมัสการครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นที่เมืองวิทบี (Whitby) ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของหาดทรายและโบสถ์เก่าแก่ สภาการนมัสการครั้งนี้ซึ่งรู้จักกันในนาม “Synod of Whitby” กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการวิวัฒนาการทางศาสนาและวัฒนธรรมของอังกฤษในยุคกลาง
ก่อนที่จะมาถึง Synody of Whitby อังกฤษถูกแบ่งแยกออกเป็นอาณาจักรต่างๆ ที่มีความแตกต่างทางศาสนาและวัฒนธรรมอย่างชัดเจน ในขณะที่ชาวเคลติกในทางเหนือ เช่น อาณาจักรโนมเบรีย (Northumbria) ยึดถือแบบแผนการคำนวณวันที่อีสเตอร์ตามประเพณีโบราณของตน ชาวอังกฤษในแคว้นอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางใต้ ได้รับอิทธิพลจากความศักดิ์สิทธิ์ของคริสต์ศาสนาโรมัน
ความขัดแย้งทางศาสนานี้เพิ่มขึ้นเมื่อนักบวชชาวไอริชชื่อเซนต์โคลัมบา (Saint Columba) เดินทางมาเผยแผ่คำสอนของพระเจ้าไปยังดินแดนอังกฤษที่ยังห่างไกลจากการเข้าถึงศาสนาคริสต์
ในที่สุด ความตึงเครียดก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อพระมหากษัตริย์โอสวอลด์ (Oswald) แห่งโนมเบรียทรงสนับสนุนแนวทางของนักบวชโรมันชื่อเซนต์วิลเฟร็ด (Saint Wilfrid)
Synod of Whitby จึงถูกจัดขึ้นเพื่อระงับความขัดแย้งนี้ โดยมีจุดประสงค์หลักคือการตัดสินว่าแบบแผนการคำนวณวันที่อีสเตอร์แบบใดที่ถูกต้องตามหลักศาสนาคริสต์
ในสภาการนมัสการครั้งนี้ ผู้ร่วมประชุมได้โต้เถียงกันอย่างรุนแรงเกี่ยวกับความหมายของวันที่อีสเตอร์ และถึงแม้จะมีนักบวชหลายคนยืนยันว่าแบบแผนเคลติกนั้นเป็นไปตามหลักศาสนาที่แท้จริง แต่สุดท้ายแนวคิดของเซนต์วิลเฟร็ดก็ได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าโอสวอลด์
การตัดสินใจนี้มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออังกฤษในช่วงเวลานั้น
-
ความเป็นเอกภาพทางศาสนา: การยอมรับแบบแผนของโรมันทำให้เกิดความสามัคคีทางศาสนาในหมู่ชาวคริสต์และนำไปสู่การจัดตั้งระบบศาสนาที่เป็นหนึ่งเดียว
-
การขยายอิทธิพลของโรมัน: การยอมรับวันที่อีสเตอร์ตามแบบแผนโรมันทำให้พระมหากษัตริย์อังกฤษในยุคต่อมาใกล้ชิดกับศาสนจักรโรมันมากขึ้น
-
การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม: การนำเอาแบบแผนและประเพณีของโรมันมาใช้ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเคลติกกับวัฒนธรรมโรมัน
ในขณะที่ Synod of Whitby เป็นเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่ความหมายและผลกระทบของมันนั้นลึกซึ้งอย่างยิ่ง การตัดสินใจที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้เปลี่ยนแปลงทิศทางของอังกฤษไปตลอดกาล และเป็นจุดเริ่มต้นของการรวมชาติและการพัฒนาอารยธรรม
Synod of Whitby เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ขนาดเล็กสามารถสร้างผลกระทบที่มีความหมายต่อโฉมหน้าของสังคมได้อย่างไร
ตารางแสดงความแตกต่างระหว่างแบบแผนการคำนวณวันที่อีสเตอร์ตามประเพณีเคลติกและโรมัน:
ประเพณี | วันที่คำนวณ |
---|---|
เคลติก | ตามปฏิทินดวงจันทร์ |
โรมัน | ตามปฏิทินสุริยันตรีมารีอัส (Julian calendar) |
ข้อสรุป:
Synod of Whitby เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการประวัติศาสตร์ของอังกฤษ การตัดสินใจที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้นำไปสู่ความเป็นเอกภาพทางศาสนาและการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อังกฤษกลายเป็นชาติที่มีอิทธิพลในยุโรป
แม้ว่า Synody of Whitby จะผ่านมาแล้วกว่า 1300 ปี แต่ก็ยังคงเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการต่อสู้เพื่อความคิดและความเชื่อ และแสดงให้เห็นถึงพลังของศาสนาในการสร้างสรรค์และเปลี่ยนแปลงสังคม