กบฏเก็นมุ ความปั่นป่วนทางการเมืองและความขัดแย้งของตระกูลในยุคกลางญี่ปุ่น

blog 2025-01-01 0Browse 0
กบฏเก็นมุ ความปั่นป่วนทางการเมืองและความขัดแย้งของตระกูลในยุคกลางญี่ปุ่น

กบฏเก็นมุ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สงครามศักดินาครั้งที่สอง” เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่วงศตวรรษที่ 14 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโครงสร้างอำนาจและสังคมของประเทศ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างชนชั้นผู้มีอำนาจและความไม่สงบทางการเมือง

ก่อนที่จะเกิดกบฏเก็นมุ ญี่ปุ่นในยุคนั้นอยู่ในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิโกะ-โคมูรากามิ (Go-Komurumaki) ซึ่งเป็นช่วงที่ตระกูลอsigmai หรือ “shogun” กำลังมีอิทธิพลเหนือประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลอาชิกางา (Ashikaga) ที่นำโดยโชกุเอน (Takauji Ashikaga) ได้สร้างชื่อเสียงและความเกรงกลัวจากการรบ

เมื่อโชกุเอนล้มลง อำนาจก็ตกไปอยู่กับลูกชายของเขา โยชิมิตซุ (Yoshimitsu Ashikaga) ซึ่งพยายามฟื้นฟูประเทศและสร้างสันติภาพ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างตระกูลต่างๆ ยังคงปรากฏขึ้นเรื่อยๆ และความไม่มั่นคงทางการเมืองก็ยังคงเป็นปัญหา

ในปี 1346 สถานการณ์เริ่มบานปลายเมื่อมีการปะทะกันระหว่างตระกูลคิทาโบ (Kitabatake) และตระกูลนิชิยามะ (Nishyama) ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นในขณะนั้น การปะทะครั้งนี้เรียกว่า “สงครามศักดินาครั้งแรก”

หลังจากสงครามศักดินาครั้งแรก ความตึงเครียดก็ยังคงดำเนินต่อไป และในปี 1387 กบฏเก็นมุได้เริ่มขึ้น กบฏครั้งนี้ถูกนำโดย โยชิฮิซะ (Yoshihisa) ลูกชายของโชกุเอน

ตระกูลที่เกี่ยวข้อง ลักษณะ
อาชิกางา (Ashikaga) Shogun, ผู้ปกครองประเทศ
คิทาโบ (Kitabatake) กลุ่มอำนาจที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลในภูมิภาคตะวันออก
นิชิยามะ (Nishyama) กลุ่มอำนาจที่แข็งแกร่งในภูมิภาคตะวันตก
โฮโจ (Hojo) ตระกูลผู้สนับสนุนตระกูลอาชิกางา, เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการเมืองของประเทศ

สาเหตุของกบฏเก็นมุ

สาเหตุหลักที่นำไปสู่กบฏเก็นมุมีหลายประการ:

  • ความไม่มั่นคงทางการเมือง: สงครามศักดินาครั้งแรกได้ทำให้เกิดความไม่มั่นคงและความขัดแย้งระหว่างตระกูลต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การปะทุของกบฏเก็นมุ
  • การช่วงชิงอำนาจ: ตระกูลต่าง ๆ พยายามช่วงชิงอำนาจจากกัน และกันเอง สร้างความตึงเครียดและความไม่ไว้วางใจ

ผลที่ตามมาของกบฏเก็นมุ

กบฏเก็นมุส่งผลกระทบอย่างมากต่อญี่ปุ่นในหลายด้าน:

  • การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง: กบฏครั้งนี้ทำให้ตระกูลอาชิกางาเสียอำนาจ และทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมือง
  • ความรุนแรงและความสูญเสีย: สงครามส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และทำลายล้างทรัพย์สิน

หลังจากกบฏเก็นมุ สภาพการณ์ในญี่ปุ่นยังคงไม่สงบ และเกิดการปะทะกันขึ้นอีกหลายครั้ง จนถึงปี 1467 เกิด “สงครามโอนิน” (Ōnin War) ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองที่กินเวลานานและทำลายล้างประเทศอย่างหนัก

กบฏเก็นมุเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความวุ่นวายและความไม่มั่นคงทางการเมืองในยุคกลางญี่ปุ่น เหตุการณ์นี้ได้ทิ้งร่องรอยไว้บนประวัติศาสตร์ของประเทศ และแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความท้าทายของการปกครอง

TAGS