![การกบฏของ FUJIWARA NO NARIYASU: การต่อสู้เพื่ออำนาจในศาสนาพุทธและการปกครองของญี่ปุ่นโบราณ](https://www.jakubd.pl/images_pics/fujiwara-no-nariyasu-rebellion-buddhist-power-struggle-ancient-japan.jpg)
ในปี ค.ศ. 729 รัชสมัยจักรพรรดิชோมอนแห่งญี่ปุ่นได้ถูกโคลนด้วยการก่อกบฏที่รุนแรง นำโดยฟุจิวาระ โนะ นาริยาสุ สมาชิกของตระกูลฟุจิวาระ ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางที่มีอิทธิพลอย่างมากในสมัยนั้น การกบฏครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความทะเยอทะยานทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แต่ยังถูกจุดชนวนโดยความขัดแย้งที่ซับซ้อนระหว่างศาสนาพุทธและการปกครองของญี่ปุ่นโบราณ
ฟุจิวาระ โนะ นาริยาสุ เป็นบุตรชายของฟุจิวาระ โนะ มารูยะมา ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง “Sadaijin” หรือหัวหน้ารัฐมนตรี ตัวเขาเองก็ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในราชสำนักอย่างรวดเร็ว แต่ความทะเยอทะยานของเขาไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น นาริยาสุใฝ่ฝันที่จะสร้างอำนาจที่เหนือกว่าและก้าวข้ามไปถึงการควบคุมจักรพรรดิ
ตัวนาริยาสุเองเป็นผู้สนับสนุนศาสนาพุทธแบบ “Hosso” หรือศาสนาพุทธสายหนึ่งที่มีอิทธิพลในสมัยนั้น ในขณะที่พระมหากษัตริย์และเหล่าขุนนางส่วนใหญ่สนับสนุนศาสนาพุทธสาย “Sanron” การแบ่งแยกระหว่างสองสายนี้ไม่ได้มีเพียงเรื่องความแตกต่างทางธรรมะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแข่งขันเพื่ออำนาจในราชสำนักด้วย
นาริยาสุมองเห็นโอกาสในการก่อกบฏหลังจากที่จักรพรรดิชเนมิน succeded onto the throne. จักรพรรดิพระองค์นี้ทรงเป็นจักรพรรดิที่มีพระสติไม่สมประกอบ และถูกควบคุมโดย “Ōi no Miko”, ผู้สนับสนุนศาสนาพุทธสาย Sanron อย่างเหนียวแน่น
ด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มขุนนางและพระสงฆ์ที่เห็นด้วยกับเขา, นาริยาสุได้รวบรวมกองทัพและเดินทัพเข้าหลวง
เมื่อกบฏเริ่มต้นขึ้น, ฟุจิวาระ โนะ นาริยาสุได้ประกาศเจตนารมย์ของเขาต่อสาธารณชน:
-
การสถาปนาศาสนาพุทธแบบ Hosso เป็นศาสนาหลักของญี่ปุ่น
-
การลดอำนาจของพระสงฆ์สาย Sanron และการโอนย้ายตำแหน่งสำคัญในราชสำนักไปยังผู้สนับสนุน Hosso
-
การตั้งจักรพรรดิองค์ใหม่ที่ยอมรับนาริยาสุและนโยบายของเขา
ความหวังของนาริยาสุในการโค่นล้มระบอบเดิมดูเหมือนจะใกล้ความสำเร็จ, เมื่อกองทัพของเขานำโดย “Tōyō no Michi”, นายพลผู้กล้าหาญ, เริ่มบุกยึดครองสถานที่สำคัญในเมืองหลวง
อย่างไรก็ตาม, การสนับสนุนต่อนาริยาสุเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อขุนนางและประชาชนทั่วไปเกรงกลัวความวุ่นวายและการสูญเสีย
กองทัพของจักรพรรดิซึ่งนำโดย “Tōno no Kunimitsu”, นายพลผู้ภักดีต่อราชวงศ์, ได้โต้กลับอย่างรุนแรง และสามารถยับยั้งการโจมตีของนาริยาสุได้
หลังจากการสู้รบที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความโหดร้าย, กองทัพของฟุจิวาระ โนะ นาริยาสุถูกพิชิตอย่างเด็ดขาด
ตัวเขาเองถูกจับกุมและถูกประหารชีวิต
การก่อกบฏของฟุจิวาระ โนะ นาริยาสุเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นโบราณ
ผลกระทบต่อการเมืองและศาสนา
-
การกบฏครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองในสมัยนั้น และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างตระกูลขุนนาง
-
นับเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันอำนาจระหว่างสายของศาสนาพุทธ
-
การปราบปรามการกบฏของฟุจิวาระ โนะ นาริยาสุทำให้ตระกูลฟุจิวาระสูญเสียความนิยมและอิทธิพล
บทเรียนที่ได้จากการก่อกบฏ
เหตุการณ์นี้สอนให้เราเห็นถึงความสำคัญของการรักษาความสมดุลทางอำนาจ, ความจำเป็นในการแก้ไขข้อขัดแย้งด้วยวิธีการที่สงบ และ ผลร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นเมื่ออุดมการณ์และความทะเยอทะยานส่วนตัวมาขัดแย้งกับ ผลประโยชน์ของส่วนรวม
ชื่อ | สายพุทธ |
---|---|
ฟุจิวาระ โนะ นาริยาสุ | Hosso |
ฟุจิวาระ โนะ มารูยะมา | Sanron |
Ōi no Miko | Sanron |
Tōyō no Michi | - |
Tōno no Kunimitsu | - |
สรุป
การกบฏของฟุจิวาระ โนะ นาริยาสุ เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นโบราณ
เหตุการณ์นี้ได้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของการเมืองและศาสนาในสมัยนั้น, ความขัดแย้งระหว่างอุดมการณ์, และผลร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นเมื่อความทะเยอทะยานส่วนตัวมาขัดแย้งกับผลประโยชน์ของส่วนรวม.